เซนเซอร์วัดคุณภาพอากาศ AirGradient ONE รุ่นบัดกรีสำเร็จ (แผงวงจร (PCB) เวอร์ชัน 9)

เซนเซอร์วัดคุณภาพอากาศ AirGradient ONE รุ่นบัดกรีสำเร็จ (แผงวงจร (PCB) เวอร์ชัน 9)

บทนำ

คำแนะนำในการประกอบชุดนี้สำหรับชุดเครื่องวัด AirGradient ONE รุ่นบัดกรีสำเร็จ (แผงวงจร (PCB) เวอร์ชัน 9) เครื่องรุ่นนี้พัฒนาต่อยอดมาจากซีรีส์ DIY Pro โดยรวมคุณสมบัติที่ดีที่สุดของซีรีส์ DIY และซีรีส์ AirGradient ONE (ที่เดิมเป็นแบบ closed source) เข้าไว้ด้วยกัน หากคุณมีเวอร์ชันอื่น โปรดดูคำแนะนำการประกอบที่ถูกต้องสำหรับเวอร์ชันของคุณได้ที่ ภาพรวมในการประกอบ (overview) โดยหมายเลขเวอร์ชันจะพิมพ์อยู่บนแผงวงจร

เครื่องวัด AirGradient ONE สามารถวัดค่า PM, CO2, TVOC, NOx, อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ ค่าเหล่านี้สามารถแสดงผลบนหน้าจอและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ (เช่น แพลตฟอร์ม AirGradient หรือระบบคลาวด์หลังบ้านอื่น ๆ ) เพื่อบันทึกข้อมูล

คุณสามารถซื้อชุดคิดพร้อมส่วนประกอบทั้งหมดได้จากร้านค้าออนไลน์ของเรา และมั่นใจได้เลยว่าทุกชิ้นส่วนเข้ากันได้อย่างแน่นอน เรามีบริการจัดส่งทั่วโลก

แผงวงจร (PCB) แบบประกอบสำเร็จของ AirGradient ONE

เวอร์ชันใหม่นี้มีแถบไฟ RGB LED อยู่ด้านหลังของแผ่น PCB ที่สามารถใช้แสดงผลคุณภาพอากาศด้วยสีต่าง ๆ ได้ ไฟ LED ทั้ง 11 ดวง สามารถสั่งงานแยกแต่ละดวงได้

แถบไฟ RGB LED ส่องสว่างทะลุผ่านตัวเครื่อง

วิดีโอสอน (สำหรับรุ่นก่อนหน้า)

ถ้าคุณประสบปัญหาหลังจากประกอบเสร็จ ลองดูหน้าการแก้ไขปัญหา

ทักษะและอุปกรณ์ที่จำเป็น

ในการประกอบเพื่อใช้งาน คุณควรมีความคุ้นเคยกับสิ่งต่อไปนี้:

ทักษะคำอธิบาย
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Linux, Mac, หรือ Windows ที่ติดตั้ง Arduino IDE แล้ว สำหรับการแฟลชซอฟต์แวร์ให้กับ ESP-C3 และคุณยังสามารถแฟลชซอฟต์แวร์โดยตรงจากเบราว์เซอร์ได้ด้วย
ไขควงคุณจำเป็นต้องมีไขควงชนิด Torx T6 ซึ่งมีรวมไว้ให้ในชุดคิทแล้ว

ส่วนประกอบ

รายการข้างล่างนี้เป็นรายการส่วนประกอบของอุปกรณ์ที่คุณจะได้รับในชุดคิทบัดกรีสำเร็จ:

ส่วนประกอบรายละเอียด
แผงวงจร (PCB) AirGradient ONE v9มาพร้อมกับ ESP32-C3-MINI, จอแสดงผล OLED, ปลั๊กเชื่อมต่อและพินต่าง ๆ
Plantower PMS5003 - เซนเซอร์วัดอนุภาคฝุ่นละออง (PM)มาพร้อมกับสายสัญญาณ
Senseair S8 - เซนเซอร์วัดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)มาพร้อมกับพินบัดกรีสำเร็จ
SHT4x - โมดูลเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นมาพร้อมกับพินบัดกรีสำเร็จ
SGP41 โมดูลเซนเซอร์วัดสารอินทรีย์ระเหยง่ายรวม (TVOC) และไนโตรเจนออกไซด์ (NOx)มาพร้อมกับพินบัดกรีสำเร็จ
สาย USB-Cหัว USB แบบมุกฉาก 90 องศา (หัวงอ)
ตัวเครื่องพลาสติก ASA แบบฉีดขึ้นรูป ทนต่อรังสี UV
สกรูสำหรับตัวเครื่องM1.8x10 (Torx T6)
สกรูสำหรับแผงวงจร (PCB)M2*4.5 (Torx T6)
สกรูสำหรับเซนเซอร์วัดอนุภาคฝุ่นละออง (PM)M2*4.5 (Torx t6) แบบเดียวกันกับสกรูสำหรับแผงวงจร

แผนผัง

แผนผัง (เพื่อดูภาพแบบเต็มจอ ให้คลิกขวา จากนั้นเลือก เปิดภาพในหน้าต่างใหม่)

การประกอบ

การประกอบแต่ละชิ้นส่วนซึ่งบัดกรีสำเร็จสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ แค่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณติดตั้งส่วนประกอบ (เช่น โมดูลเซนเซอร์แต่ละตัว) ในทิศทางและการวางแนวที่ถูกต้อง ป้ายชื่อบนส่วนประกอบแต่ละชิ้นควรจะตรงกันกับป้ายชื่อที่ระบุบนแผงวงจร แผงวงจร (PCB) อาจมีทั้งแบบสีน้ำเงินและสีดำซึ่งในการใช้งานนั้นเหมือนกันทุกประการ

ตำแหน่งของส่วนประกอบต่าง ๆ บนแผงวงจร (PCB)

เราแนะนำให้เริ่มต้นตามขั้นตอนดังนี้:

ESP32-C3 Mini

ตัวแผงวงจรได้มีการติดตั้งไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP32-C3-MINI ไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณไม่ต้องทำอะไรในส่วนนี้ โปรดทราบว่าไมโครคอนโทรลเลอร์เชื่อมต่อกับปลั๊กเสียบ USB บนแผงวงจร คุณจึงสามารถแฟลชผ่าน USB ได้

และมีปุ่ม 2 ปุ่มอยู่ด้านล่างซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ในกระบวนการแฟลช

ESP32-C3-MINI

SHT40 โมดูลเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้น

ติดตั้งโมดูลเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้น SHT4x ดังแสดงในภาพด้านล่าง นำไปเสียบเข้าที่ช่องพินด้านซ้ายล่างของแผงวงจรที่มีตัวอักษรบอกว่า “SHT1” โปรดระวังสับสน เนื่องจากโมดูลเซนเซอร์วัด TVOC (สารอินทรีย์ระเหยง่ายรวม) รุ่น SGP4x (ซึ่งไม่ได้ใช้ในขั้นตอนนี้) มีความคล้ายคลึงกับโมดูลเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้น SHT4x ในขั้นตอนนี้มาก ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตั้งโมดูลที่มีตัวอักษรบอกว่า “SHT4x” เข้ากับพินบนบอร์ดที่มีอักษรบอกว่า “SHT1”

โปรดตรวจสอบว่าด้านหน้าของตัวโมดูลหันออกมาข้างนอกดังรูป

โมดูล SHT4x

Senseair S8 Module (CO2 Sensor)

ติดตั้งโมดูล CO2 ลงในช่องพินบนแผงวงจรที่มีตัวอักษรพิมพ์บอกว่า “CO2 Sensor” โปรดตรวจสอบว่าการวางแนวของโมดูลถูกต้องและขาพินเสียบเข้าทุกช่องอย่างสมบูรณ์ดังภาพด้านล่าง

โมดูล S8

เซนเซอร์ CO2 ใช้การสอบเทียบระดับพื้นฐาน 7 วัน ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเพื่อให้การวัดค่ามีความแม่นยำ

PMS5003 (PMS Sensor)

เซนเซอร์ PMS เชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลที่ด้านหนึ่งเชื่อมต่อกับตัวโมดูลและอีกด้านหนึ่งเข้ากับปลั๊กเชื่อมต่อ JST บนแผงวงจร โดยจะมีตัวอักษรพิมพ์ว่า “PMS” บนแผงวงจร โปรดทราบว่าสายเคเบิลนี้เป็นสายแบบครอสโอเวอร์ (cross-over) ดังนั้นสายเคเบิลอีกรุ่นหนึ่งที่มีความยาวมากกว่าซึ่งมักจะมาพร้อมกับเซนเซอร์ PMS5003 จะไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ จากนั้นเสียบตัวเชื่อมต่อทั้งสองด้านของสายเคเบิลลงในปลั๊กเสียบทั้งด้านที่เชื่อมต่อกับตัวโมดูลและด้านที่เชื่อมกับแผงวงจรอย่างให้แน่น

โปรดตรวจสอบว่าปลั๊กเชื่อมต่อทั้งหมดเสียบเข้ากันอย่างแน่นหนา

ตำแหน่งของเซนเซอร์ PMS
ปลั๊กเชื่อมต่อ JST
สกรูสำหรับยึดเซนเซอร์ PMS เข้ากับแผงวงจร

จากนั้นใช้ไขควงหมุนสกรูเพื่อยึด PMS5003 เข้ากับแผงวงจร

SGP41 AirGradient TVOC / NOx Module - โมดูลวัดค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายรวมและไนโตรเจนออกไซด์

โมดูล TVOC / NOx จะติดตั้งที่ช่องที่มุมด้านบนขวาของแผงวงจร ซึ่งจะมีตัวอักษรพิมพ์บอกว่า “I2C3” บนแผงวงจร

กรุณาตรวจสอบว่าคุณได้ติดตั้งโมดูลในการวางแนวที่ถูกต้อง โดยตัวเซนเซอร์จะต้องหันหน้าออกมาข้างนอก

การทดสอบและประกอบลงในตัวเครื่อง

ในขั้นตอนนี้คุณสามารถเปิดใช้งานเครื่องได้แล้วและจอแสดงผลควรจะสว่างขึ้นมา คุณต้องเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi หากคุณแฟลชเวอร์ชัน Wi-Fi โดยสามารถเข้าไปที่การตั้งค่า Wi-Fi ในโทรศัพท์ของคุณและมองหา hot spot ที่ชื่อว่า “airgradient-_ _ _ _ _ _” และให้กรอกรหัสผ่านเป็น “cleanair” เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับ hot spot นั้น จากนั้นให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่แสดงขึ้นมาบนหน้าจอ จากนั้นให้คุณใส่ข้อมูลและรหัสผ่านของเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ (Wi-Fi บ้านคุณ) หลังจากนั้นเครื่องจะเชื่อมต่อกับ Wi-Fi และเริ่มแสดงค่าและส่งข้อมูลคุณภาพอากาศ สำหรับการใช้งานแดชบอร์ด AirGradient คุณสามารถลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ได้ตามขั้นตอนการเริ่มตั้งค่าเครื่องวัดครั้งแรก

หากพบว่าทุกอย่างทำงานได้ปกติ คุณสามารถใช้สกรูยึดแผงวงจรเข้ากับฝาตัวเครื่องด้านหน้า จากนั้นประกบเข้ากับฝาตัวเครื่องด้านหลัง

สกรูสำหรับแผงวงจร

จากนั้นให้หมุนสกรูเพื่อยึดทั้งสองด้านของแผงวงจรกับฝาหน้าตัวเครื่องให้แน่น (ใช้สกรูยึดด้านละ 2 ตัว)

ตำแหน่งของสกรูที่ยึดแผงวงจร

เมื่อยึดแผงวงจรกับฝาหน้าตัวเครื่องด้วยสกรูอย่างแน่นหนาแล้ว จากนั้นให้คุณปิดฝา (ประกบเข้ากับฝาหลัง) จากนั้นใช้กรูตัวยาวเพื่อยึดฝาหน้าและฝาหลังตัวเครื่องเข้าด้วยกัน

สกรูสำหรับตัวเครื่อง

ตำแหน่งสำหรับสกรูแต่ละตัวจะอยู่ที่ใกล้มุมเครื่องทั้งสี่ด้าน ข้าง ๆ กันกับช่องระบายอากาศ:

ตำแหน่งสำหรับสกรู

โปรดทราบว่าไขควงที่ให้มาในกล่องอาจไม่มีแรงบิดมากพอที่จะหมุนสกรูเข้าไปในบางกรณี หากเป็นเช่นนั้น ให้ใช้ไขควงหัว T6 ที่มีแรงบิดมากกว่านี้ หรือคุณสามารถเติมสบู่หรือน้ำมันลงไปบนพื้นผิวเกลียวสกรูก็ได้เพื่อให้สามารถหมุนเข้าไปในสะดวกขึ้น

สบู่ช่วยให้หมุนสกรูเข้าไปยึดตัวเครื่องได้สะดวกขึ้นในกรณีคุณใช้ไขควงขนาดเล็ก

อแดปเตอร์จ่ายไฟ

อแดปเตอร์จ่ายไฟไม่ได้รวมอยู่ในกล่อง คุณสามารถใช้งานอแดปเตอร์ 5V 2A มาตรฐานได้

การแฟลชโดยตรงผ่านเบราเซอร์

ในกรณีคุณเพิ่งได้ชุดคิท AirGradient 9PSL มาใหม่ เราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณอัปเดตเฟิร์มแวร์เนื่องจากเราได้ทำการแก้ไขข้อผิดพลาดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเครื่องวัดของคุณแล้ว

คุณยังสามารถแฟลชด้วยตัวเองผ่านซอฟต์แวร์ Arduio หรือจะแค่กดปุ่มข้างล่างนี้ง่าย ๆ ทีเดียวก็ได้ โดยให้คุณเชื่อมต่อสาย USB (สายแบบส่งข้อมูลได้) ระหว่างเครื่องวัดกับคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วกดปุ่มข้างล่าง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้งานเบราเซอร์ Chrome หรือ Edge เพื่อการดำเนินการที่เหมาะสม

Version 3.3.8 Release

เบราว์เซอร์ของคุณไม่รองรับ กรุณาใช้ Chrome หรือ Edge บนแมคหรือพีซี คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานสิ่งนี้บน HTTP

ดูเฟิร์มแวร์เวอร์ชันก่อนหน้าและบันทึกการเปลี่ยนแปลงได้ที่นี่

ข้อผิดพลาดในการบูตระหว่างที่ทำการแฟลช

ในกรณีคุณได้รับการแจ้งเตือนข้อผิดพลาดว่า“การเริ่มต้นล้มเหลว โปรดลองรีเซตเครื่องหรือกดปุ่ม BOOT ค้างไว้แล้วกด INSTALL” หรือในกรณีข้อความแจ้งเตือนเป็นภาษาอังกฤษว่า “Failed to initialize. Try resetting your device or holding the BOOT button while clicking INSTALL” ในระหว่างการแฟลช คุณจำเป็นต้องให้เครื่องเข้าสู่โหมดบูตพิเศษ โดยทำตามขั้นตอนข้างล่าง:

  1. กดปุ่มที่เขียนว่า “BOOT SW” บนตัวแผงวงจรแล้วกดข้างไว้ โดยปุ่มดังกล่าวจะอยู่ด้านหลังตรงกับตำแหน่งข้าง ๆ ช่องเสียบ USB ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเปิดฝาตัวเครื่องออกมา คุณสามารถใช้ไขควงขนาดเล็กกดปุ่มดังกล่าวผ่านช่องนั้นได้จากด้านหลังตัวเครื่อง โดยอย่าลืมว่าให้กดปุ่มค้างไวก่อน
  2. จากนั้นเสียบสาย USB C
  3. ปล่อยปุ่มที่กดค้างไว้ หากคุณไม่ดำเนินการตามนี้ เครื่องวัดจะไม่สามารถเข้าสู่งโหมดแฟลชได้
  4. กดปุ่มสีฟ้าด้านบน
  5. เลือกซีเรียลพอร์ตที่เครื่องวัดของคุณเชื่อมต่ออยู่ มันมักจะแสดงชื่อว่า “USB JTAG / Serial Debug”
  6. ทำตามขั้นตอนการแฟลช ในกรณีคุณต้องการลบข้อมูล WiFi ที่เคยเชื่อมต่อกับตัวเครื่องก่อนหน้า ให้คุณกดเลือกที่กล่อง ‘Erase the Device’
  7. หลังจากแฟลชเสร็จเรียบร้อยให้รีสตาร์ตเครื่องวัด ด้วยการถอดสาย USB C ออกจากเครื่อง จากนั้นเสียบเข้าไปใหม่

เมื่อโค้ดได้รับการแฟลชเข้าเครื่องวัดแล้ว เครื่องวัดจะเปิดฮอตสปอตเป็นเวลา 180 วินาทีให้คุณสามารถเชื่อมต่อเข้าไปได้ (ถ้าฮอตสปอตดังกล่าวถามหาพาสเวิร์ด ให้ใส่ว่า ‘cleanair’) และหลังจากนั้นให้กรอกข้อมูล Wi-Fi ของคุณ (Wi-Fi บ้านคุณ) โดยค่าเริ่มต้นแล้วเครื่องวัดจะเชื่อมต่อกับแดชบอร์ด AirGradient ถ้าคุณต้องการใช้ endpoint อื่น ให้คุณเปลี่ยนแปลงโค้ดด้วยวิธีการแฟลชด้วยตัวเองข้างล่าง

ถ้าคุณไม่เชื่อมต่อ Wi-Fi ภายใน 180 วินาทีหลังจากเครื่องวัดเริ่มต้นทำงาน เครื่องวัดจะเข้าสู่โหมดออฟไลน์และแสดงค่าคุณภาพอากาศโดยไม่ส่งข้อมูล

คำแนะนำในการบันทึกข้อมูล (log)

ทำตามขั้นตอนข้างล่างเพื่อดูข้อความแก้ไขข้อบกพร่อง (debug messages) และการบันทึกข้อมูล (log) ของเครื่องวัด:

  1. เสียบสาย USB C
  2. กดปุ่มสีฟ้าด้านบน
  3. เลือกซีเรียลพอร์ตที่เครื่องวัดของคุณเชื่อมต่ออยู่ โดยมักจะแสดงข้อความว่า “USB JTAG / Serial Debug”
  4. กด “Log & Console”
  5. กด “Reset Device” เพื่อรีบูตเครื่องวัด
  6. ในตอนนี้คุณจะเห็นข้อความแก้ไขข้อพกพร่องและหมายเลขผลิตภัณฑ์

แดชบอร์ด AirGradient

วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับการเริ่มใช้เครื่องวัดของคุณบนแดชบอร์ด AirGradient คือใช้ตัวช่วยการเริ่มต้นตั้งค่าเครื่องวัดของเรา:

ตัวช่วยการเริ่มต้นตั้งค่าเครื่องวัด

ขั้นตอนแรกคุณต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ก่อน (หรือถ้าคุณมีบัญชี AirGradient อยู่แล้วก็ให้กด login) จากนั้นคุณจะเข้าสู่หน้าสำหรับการตั้งค่าสถานที่ สถานที่หนึ่งที่คุณตั้งค่าขึ้นมาสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องวัดได้หลายตัว ยกตัวอย่างเช่น บ้าน, โรงเรียน, หรือออฟฟิศ แต่ละสถานที่จะแสดงบนแดชบอร์ด

เมื่อคุณตั้งค่าผู้ใช้งานและสถานที่เรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเชื่อมต่อเครื่องวัดของคุณสู่ WiFi และเพิ่มมันเข้าไปที่สถานที่ในแดชบอร์ดของคุณโดยทำตามวิธีการที่แนะนำไว้ในตัวช่วยการเริ่มต้นตั้งค่าเครื่องวัด

ถ้าคุณประสบปัญหาใด ๆ โปรดลองดูบทความในแหล่งความรู้.ของเรา

เชื่อมต่อกับ WiFi

ถ้าคุณต้องการแค่เชื่อมต่อเครื่องวัดของคุณเข้ากับเครือข่าย WiFi โดยไม่ใช้งานแดชบอร์ด AirGradient กรุณาดำเนินการตามคำแนะนำในการเชื่อมต่อ WiFi

การกำหนดค่า

ตั้งแต่เฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 3 ขึ้นไป การกำหนดค่าต่อไปนี้สามารถทำได้บนแดชบอร์ด AirGradient:

  • หน่วยของอุณหภูมิ (°C หรือ °F)
  • เปิด หรือ ปิด แท่งไฟ LED
  • PM2.5 แสดงเป็นค่า μg/m³ หรือ US AQI
  • การสอบเทียบระดับพื้นฐานของค่า CO2
  • ตั้งค่าระยะเวลาระดับพื้นฐานของ CO2
  • การตั้งค่าโมดูลเซนเซอร์ TVOC และ NOx

ถ้าคุณต้องการปิดแท่งไฟ LED หรือเปลี่ยนค่าที่แสดงผลบนจอ คุณสามารถทำได้ในเมนู‘Location Administration’ ของเซนเซอร์แต่ละตัว ในรายการสถานที่ (location list) กด ‘Actions’ จากนั้นเลือก ‘Edit Location’ และจากนั้นคุณก็สามารถเลือกโหมดของไฟ LED ได้ในกล่องข้อความ

การบังคับสอบเทียบระดับพื้นฐาน CO2

ตั้งแต่เฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 3 ขึ้นไป คุณสามารถบังคับให้เซนเซอร์ CO2 ทำการสอบเทียบระดับพื้นฐานเป็น 400ppm (ค่าเฉลี่ยระดับ CO2 นอกอาคาร) โดยสามารถทำการสอบเทียบได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  • นำเครื่องวัดออกไปนอกอาคารหรือเปิดหน้าต่างทุกบานออกไว้อย่างน้อย 20 นาทีเพื่อให้แน่ใจว่าระดับ CO2 ที่เซนเซอร์ตรวจวัดได้เป็นระดับ CO2 จากสิ่งแวดล้อมจริง ๆ
  • ไปที่เมนู ‘Hardware Administration’ บนแดชบอร์ด จากนั้นกด ‘Actions’ แล้วเลือก ‘Edit Sensor’
  • กดเลือก “Request CO2 calibration”
  • กด Save

รอประมาณ 2-3 นาที เครื่องวัดจะแสดงผลบนจอว่าระดับ CO2 อยู่ที่ประมาณ 400ppm

Home Assistant และเซิร์ฟเวอร์ในเครือข่ายเดียวกัน (local server)

ตั้งแต่เฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 3 ขึ้นไป รองรับการทำงานร่วมกับ Home Assistant โดยตรงและ Home Assistant จะค้นหาเครื่องวัดอัตโนมัติ (auto discovery) นอกเหนือจากนี้แล้วเซิร์ฟเวอร์ในเครือข่ายเดียว (local server) ยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์และอ่านค่าได้โดยตรงจากเครื่องวัดที่เชื่อมต่อในเครือข่ายเดียวกัน (และสามารถกำหนดค่าต่าง ๆ ได้)

การแก้ไขปัญหา

นี่คือรายการปัญหาที่พบบ่อย พร้อมวิธีการแก้ไข

พฤติกรรมของปัญหาสาเหตุที่เป็นไปได้การแก้ไข
เปิดเครื่องวัดไม่ติดแม้จะเสียบสาย USB จ่ายไฟแล้วก็ตาม (ไม่มีตัวอักรแสดงบนจอแสดงผล)ติดตั้งโมดูลเซนเซอร์ TVOC กับเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ/ความชื้นไม่ถูกต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าโมดูลเซนเซอร์ TVOC และเซนเซอร์อุณหภูมิ/ความชื้นได้รับการติดตั้งในทิศทางที่ถูกต้อง โดยให้ด้านที่มีชิปและโลโก AirGradient เล็ก ๆ หันหน้าออกมา
เครื่องวัดไม่เปิด WiFi hotspotใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชันเก่าแฟลชเฟิร์มแวร์ใหม่ด้วยวิธีการตามขั้นตอนข้างบน.
เครื่องวัดไม่จดจำรหัสผ่าน WiFi หลังจากรีบูตใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชันเก่าแฟลชเฟิร์มแวร์ใหม่ด้วยวิธีการตามขั้นตอนข้างบน.
การหมุนสกรูเข้าเพื่อประกอบตัวเครื่องให้แน่น ทำได้ยากเกินไปด้วยไขควงขนาดเล็กนำสบู่ไปใส่บนพื้นผิวสกรูหรือใช้ไขควงหัว T6 ที่มีแรงบิดสูงขึ้น (ขนาดใหญ่ขึ้น)
ค่า PM และ CO2 แสดงผลบนจอเป็น -1 หรือ -3โมดูลเซนเซอร์ไม่ได้รับการติดตั้งอย่างเหมาะสมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียบเซนเซอร์ต่าง ๆ ถูกต้องและการเชื่อมต่อไม่หลวม
TVOC แสดงค่าเป็น 0เซนเซอร์ยังไม่ถึงจุดที่ทำงานได้เต็มที่โมดูลเซนเซอร์ TVOC ต้องใช้เวลาราว 1-2 นาทีในการอุ่นเครื่องก่อนที่จะแสดงค่า TVOC
NOx แสดงค่าเป็น 0โมดูลเซนเซอร์ NOx ไม่ได้มีความไวมากนักในกรณีส่วนมาก ค่า NOx จะอยู่ราว 0 หรือ 1 จะมีแค่เพียงกรณีที่ความเข้มข้นของ NOx สูงมาก ค่าที่แสดงจึงจะสูงกว่านั้น
PM แสดงค่าเป็น 0คุณภาพอากาศดีอย่างมากไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่จะพบว่าการอ่านค่า PM เป็น 0 ในช่วงที่คุณภาพอากาศดีมาก ๆ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่แน่ใจว่าเซนเซอร์ PM ทำงานปกติหรือไม่ ให้ลองสร้างควันขึ้นมา เช่น ควันจากเทียนไข จากนั้นลองดูว่าค่า PM ปรับตัวสูงขึ้นหรือไม่

การแฟลชด้วยตนเองโดยใช้ซอฟร์แวร์ Arduino

การแฟลชแบบด้านบนเป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดแล้วในการแฟลชเฟิร์มแวร์เข้าไปในเครื่อง แต่ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนแปลงโค้ด คุณสามารถแฟลชผ่านซอฟร์แวร์ Arduino ได้เช่นกัน ซอฟต์แวร์ทั้งหมดสำหรับ AirGradient DIY แบบโอเพนซอร์ส ดังนั้นคุณสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ตามใจชอบ

โปรดอ่านบล็อกโพสต์เกี่ยวกับวิธีติดตั้งซอฟต์แวร์ Arduino การตั้งค่า ESP32-C3 และไลบรารี AirGradient Arduino

คำแนะนำการตั้งค่าซอฟต์แวร์ Arduino สำหรับ AirGradient

การแฟลชเฟิร์มแวร์ AirGradient

เมื่อคุณได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ Arduino สำหรับ ESP32-C3 แล้ว คุณสามารถแฟลชเฟิร์มแวร์ AirGradient เข้าไปได้

ขั้นตอนคำอธิบาย
1ไปที่ Tools, Manage Libraties, จากนั้นค้นหา AirGradient แล้วติดตั้ง AirGradient library
2เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วให้ไปที่ File, Example, AirGradient แล้วเลือกโค้ด OneOpenAir.ino
3อ่านคำแนะนำที่ด้านบนของโค้ดตัวอย่างแล้วติดตั้งไลบรารีเพิ่มเติม
4จากนั้นแฟลชโค้ดนี้แบบเดียวกันกับที่คุณแฟลชโค้ดตัวอย่างที่กะพริบ

การติดตั้งเครื่องวัด

การติดตั้งเครื่องวัดอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อความแม่นยำในการอ่านค่าและให้เครื่องวัดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

โปรดทำตามรายละเอียดที่บอกไว้ในคำแนะนำในการติดตั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องวัดของคุณได้รับการติดตั้งอย่างปลอดภัยและทำงานได้ปกติ

CC BY-SA 4.0 Attribution-ShareAlike 4.0 International

ผลงานนี้ใช้สัญญาอนุญาตแบบ CC BY-SA 4.0 (สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 4.0)

สัญญาอนุญาตนี้กำหนดให้ผู้ที่นำผลงานไปใช้ต่อต้องให้เครดิตแก่ผู้สร้างสรรค์ หากคุณนำผลงานไปผสมผสาน ดัดแปลง หรือสร้างสรรค์ต่อยอด คุณจะต้องเผยแพร่งานของคุณภายใต้สัญญาอนุญาตเดียวกันกับต้นฉบับ

ลิขสิทธิ์เป็นของ บริษัท แอร์ เกรเดียนต์ จำกัด



Your are being redirected to AirGradient Dashboard...